สาเหตุที่ควรลงทุน Bitcoin ด้วยการ DCA

ในปีที่ผ่านมา Bitcoin อาจไม่ได้มีผลตอบแทนที่น่าสนใจในตอนนี้ แต่หากพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ จะพบว่า Bitcoin กำลังเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถผลักดันราคาได้ในระยะยาว ดังนี้


ปัจจัยทำให้เหรียญ Bitcoin น่าลงทุน

การยอมรับจากกลุ่มสถาบัน: ในปัจจุบัน มีสถาบันการเงินและบริษัทใหญ่ ๆ หลายรายที่ได้เริ่มเปิดให้บริการลูกค้าใช้ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เป็นการลงทุน ซึ่งทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในตลาดทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีการซื้อ Bitcoin โดยสถาบันและบริษัทใหญ่อื่น ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการลงทุนใน Bitcoin นั้นได้รับการยอมรับและความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินและการลงทุน

การอัพเกรดและพัฒนาเครือข่าย: Bitcoin ยังคงมีการพัฒนาเครือข่ายต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบ ซึ่งทำให้ Bitcoin มีความน่าสนใจในตลาดและสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนในระยะยาว

วัฏจักรขาขึ้น: การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin มีความซับซ้อนและไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ แต่พึงระลึกว่าวัฏจักรขาขึ้นของราคา Bitcoin ไม่ได้หมายความว่าราคาจะขึ้นตลอดเวลา แต่เป็นการเคลื่อนไหวราคาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ๆ ก่อนที่ราคาจะมีการถล่มลงอีกครั้ง การวิเคราะห์วัฏจักรขาขึ้นจึงต้องพิจารณาการเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาว ๆ เพื่อเห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในระยะยาว


นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อวัฏจักรขาขึ้นของราคา Bitcoin อย่างเช่น การยอมรับจากกลุ่มสถาบัน การปรับปรุงเทคโนโลยีของเครือข่าย Bitcoin การสร้างธุรกรรมใหม่ ๆ ในเครือข่าย Bitcoin และปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ในระยะยาว

ผลตอบแทนเฉลี่ยของ Bitcoin 

โดยในปัจจุบัน ผลตอบแทนเฉลี่ยของ Bitcoin ยังคงมีค่าสูงกว่าหลายสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนของ Bitcoin มีค่าเฉลี่ยประมาณ 200% ต่อปี โดยมีการสูงสุดถึง 1,300% ในปี 2017 และการตกลงถึง -73% ในปี 2018 แต่การเติบโตของ Bitcoin ในระยะยาวยังคงมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ความน่าสนใจของ Bitcoin ยังอยู่ที่ว่า เป็นสินทรัพย์ที่มีศักย์สูง และมีผู้ถือครองที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยตัวเลขล่าสุดของ Glassnode รายงานว่ามีจำนวนผู้ถือครอง Bitcoin ที่มีมากกว่า 100 BTC ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงปี 2020-2021 โดยเฉพาะในช่วงของการขึ้นของราคาเมื่อเดือนเมษายน 2021

ที่มา- https://www.bitcoinmonthlyreturn.com/

การยอมรับของบริษัทจดทะเบียนและสถาบันการเงินต่อ Bitcoin มีการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจาก Fidelity Investments ที่ท่านกล่าวถึงแล้ว ยังมีบริษัทอื่น ๆ เช่น JPMorgan Chase ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนและสัมพันธ์กับการทำธุรกรรม Bitcoin รวมไปถึง PayPal ที่เปิดให้บริการการซื้อขาย Bitcoin ในแอปพลิเคชันของพวกเขาด้วย ซึ่งส่งผลให้การใช้งานและการลงทุนใน Bitcoin มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต

ทั้ง Fidelity Investments และ BlackRock เป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ที่เริ่มสนใจเข้ามาในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin และมีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ให้แก่ลูกค้าสถาบันรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่น ๆ อีกมากมายที่เข้ามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสถาบันการเงินและบริษัทต่าง ๆ ที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin ด้วย

ในขณะเดียวกัน Bitcoin ได้มีการพัฒนาโปรโตคอลเพื่อเสริมศัพยภาพให้กับการเก็บข้อมูลธุรกรรม โดยมีการอัพเกรด Segregated Witness (SegWit) และ Taproot ที่ช่วยเพิ่มขนาดบล็อกสำหรับการเก็บข้อมูลธุรกรรมต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโปรโตคอล Ordinal ที่เป็นการที่ผู้ใช้งานสามารถบันทึกข้อมูลไฟล์รูปภาพ, ไฟล์เสียง และข้อความลงในหน่วยย่อยของ Bitcoin ที่เรียกว่า “ซาโตชิ / Satoshi” โดยใช้ SAT เป็นหน่วยย่อยลงไปได้ถึง 0.0000000001 และจะทำให้ข้อมูลที่ Inscription ลงไปในหน่วยย่อย Satoshi เหล่านี้มีลักษณะที่แตกต่างกันไม่ซ้ำกัน ดังนั้นการพัฒนาโปรโตคอล Ordinal นี้จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นและการใช้งาน Bitcoin ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

DCA หรือ Dollar Cost Averaging  คืออะไร

DCA หรือ Dollar Cost Averaging คือ วิธีการลงทุนโดยการซื้อสินทรัพย์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวโดยการแบ่งการลงทุนเป็นช่วงเวลา โดยที่จะลงทุนเงินลงทุนเท่ากันในแต่ละช่วงเวลา ไม่ว่าราคาสินทรัพย์จะเป็นไปอย่างไรก็ตาม เช่น การซื้อหุ้นตามราคาปกติ หรือซื้อเหรียญสกุลดิจิตอลตามราคาปกติตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ ด้วยการทำ DCA นักลงทุนจะได้เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยราคาซื้อของสินทรัพย์นั้น ๆ และลดความเสี่ยงที่จะได้รับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าคาดหมายในระยะยาว เนื่องจากราคาสินทรัพย์จะต้องมีการผันผวนเป็นปกติโดยไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินทรัพย์ใด ๆ

ถ้านักลงทุนเริ่มลงทุนใน BTC แบบรายเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 จนถึงเดือนธันวาคม 2022 โดยลงทุนเท่า ๆ กันทุกเดือน เดือนละ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,400 บาท) นักลงทุนจะลงทุนเป็นรายเดือนเป็นจำนวน 12 เดือน โดยรวมถึงจำนวนเงินที่ลงทุนทั้งหมด 1,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 40,800 บาท) เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี นักลงทุนจะมีเงินเหลืออยู่ทั้งสิ้น 867.15 ดอลลาร์ (ประมาณ 29,000 บาท) 


หากสมมติว่าราคา Bitcoin ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลา 1 ปี นักลงทุนจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน 1,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 40,800 บาท) แต่ในการเข้าลงทุนใน Bitcoin มักมีความผันผวนสูง อาจทำให้ราคา Bitcoin เปลี่ยนแปลงได้มากขึ้นหรือน้อยลง ซึ่งจะมีผลต่อผลตอบแทนของนักลงทุน

ถ้านักลงทุนลงทุนใน BTC แบบรายเดือนเป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 จนถึงเดือนธันวาคม 2022 โดยลงทุนเท่า ๆกันทุกเดือน เดือนละ 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,400 บาท) เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี นักลงทุนจะมีเงินเหลืออยู่ทั้งสิ้น 9,675.96 ดอลลาร์ (ประมาณ 330,000 บาท) โดยในช่วงเวลานี้ BTC มีการเคลื่อนไหวราคาอย่างไม่แน่นอน แต่ในทางกลับกัน มีผู้ลงทุนที่สามารถได้รับผลตอบแทนสูงถึงกว่า 100% ในบางปี ดังนั้นการลงทุนใน BTC จึงเป็นการลงทุนที่เสี่ยง แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน วิเคราะห์ตลาดและกำหนดแผนการลงทุนอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในการลงทุนใน BTC หรือในทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ


ถ้าเทียบกับเงินลงทุนทั้งหมดที่ลงทุนไป 6,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 200,000 บาท) แล้ว การลงทุนใน BTC รายเดือน 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,400 บาท) ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 5 ปี ได้ผลตอบแทน +61.27% หรือได้กำไร 3,675 ดอลลาร์ (ประมาณ 120,000 บาท) เป็นสิ่งที่ดีกว่า และเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในเหรียญอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน BTC มีความเสี่ยงอยู่และผลตอบแทนอาจเป็นไปตามทิศทางที่ตลาดกำหนด ดังนั้น การลงทุนใน BTC ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบและไม่ควรลงทุนเกินความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเองด้วย


อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Bitcoin ยังคงมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่คาดคิด และการฝากเงินใน Bitcoin ไม่ได้รับความปลอดภัยเหมือนกับการฝากเงินในธนาคารหรือการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ดังนั้นการลงทุนใน Bitcoin ควรใช้เงินที่สามารถเสียได้และควรพิจารณาความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน. ดังนั้นการลงทุนใน Bitcoin จึงต้องพิจารณาปัจจัยทั้งหมดที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา และควรสรุปความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เป็นไปได้ในระยะยาวก่อนตัดสินใจลงทุน

0xNapakkraj

ฉันชอบบิทคอยน์และสกุลเงินคริปโต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า